โครงการประชุมวิชาการและสัมมนาระดับนานาชาติ

การประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม

ความร่วมมือระดับประเทศกับราชอาณาจักรภูฏาน

สมเด็จพระราชชนนี ซังเก โชเดน วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน (ซ้ายหน้า: เชนกิง อูเดน เพนจอร์ ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิ Gyalyum Charitable Trust พร้อมด้วยผู้แทนอาวุโสจากกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏานและคณะ เข้าเยี่ยมชมและบุคลากรทางการแพทย์เข้าฝึกอบรม ณ ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม

ในปี พ.ศ. 2565 เราได้เชิญคณะแพทย์ พยาบาล นักรังสีเทคนิค และวิศวกรชีวการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากราชอาณาจักรภูฏาน เข้ารับการฝึกอบรมขั้นสูงเป็นเวลา 6 เดือน และในโอกาสนี้เราได้มอบเครื่องเอกซเรย์เต้านมดิจิทัล 3 มิติ (Tomosynthesis) แก่ราชอาณาจักรภูฏาน โดยคณะจากราชอาณาจักรภูฏานได้ศึกษาและทำงานอย่างใกล้ชิดกับแพทย์และพยาบาลที่แผนกรังสีวิทยาของเรา เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้อุปกรณ์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทีมวิศวกรชีวการแพทย์ได้เข้าฝึกอบรมกับทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาวิธีการบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่ได้รับไป ส่วนทีมพยาบาลได้เข้าฝึกอบรมและทำงานร่วมกับทีมพยาบาลในแผนกเคมีบำบัดของเรา นอกจากนี้นักรังสีแพทย์และศัลยแพทย์จะเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรแพทย์อีกเป็นเวลา 1 ปี ในปี พ.ศ. 2566

โครงการดังกล่าวได้จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 สมเด็จพระราชชนนี ซังเก โชเดน วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏานทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะผู้เข้าฝึกอมรมนี้เข้าเฝ้าก่อนเดินทางมายังกรุงเทพมหานคร โดยมูลนิธิ Gyalyum Charitable Trust ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อราชกุศลในพระองค์เป็นผู้ประสานงานหลักสำหรับโครงการนี้ร่วมกับเรา

ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านมจัดปาฐกถาอนุสรณ์ แด่ คุณอากร ฮุนตระกูล

ปาฐกถาอนุสรณ์ แด่ คุณอากร ฮุนตระกูล เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลทั่วประเทศเข้าร่วมฟังสัมมนาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเรียนรู้แนวคิดและนวัตกรรมล่าสุดเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัย การรักษา และการวิจัยเฉพาะทางโรคมะเร็งเต้านม รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันบำบัด ในงานนี้เราได้เชิญนักวิชาการชั้นนำจากนานาประเทศมานำเสนอผลงานวิจัยของตน รวมถึงการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งในสตรี ตลอดจนจากนักภูมิคุ้มกันวิทยาที่พัฒนายาที่ใช้รักษามะเร็งในอวัยวะอื่น ๆ นอกเหนือจากโรคมะเร็งเต้านม ปาฐกถาอนุสรณ์นี้มีบทบาทสำคัญในการเปิดมุมมองใหม่และขยายขอบเขตของแนวคิดทางการแพทย์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น นอกจากนี้  ยังได้มีการนำเสนอผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จของเรา โดยเฉพาะการคิดค้นวิธีการรักษามะเร็งเต้านมรูปแบบใหม่ด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเคยได้นำเสนอไปในการประชุมนานาชาติ St. Gallen ว่าด้วยโรคมะเร็งเต้านม ในปี พ.ศ. 2564 (St Gallen International Breast Cancer Conference 2021) โดยปาฐกถานี้ได้จัดขึ้นทุกปีเพื่อรำลึกถึง คุณอากร ฮุนตระกูล ผู้ล่วงลับจากโรคมะเร็ง โดยได้รับการสนับสนุนจากคุณชมพูนุท ฮุนตระกูล ผู้เป็นภรรยาและครอบครัวของท่า

ศาสตราจารย์โยลันดา เดอ ฟรีส์

นพ.กฤษณ์ จาฏามระ, ศาสตราจารย์ เดอ ฟรีส์ วิทยากรรับเชิญ, คุณชมพูนุท หุตะกูล

ศาสตราจารย์ เดอ ฟรีส์ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภูมิคุ้มกันวิทยาด้านเนื้องอก ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล Nijmegen มหาวิทยาลัย Radboud ประเทศเนเธอร์แลนด์ ท่านเป็นหนึ่งในนักวิจัยกลุ่มแรก ๆ ที่นำความรู้ด้านชีววิทยาของเซลล์เดนไดรต์มาประยุกต์ใช้ ความสนใจหลักของท่านคือการวิจัยทางด้านภูมิคุ้มกันบำบัดด้วยเซลล์เดนไดรต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อใช้ในการรักษาโรคมะเร็งผิวหนังและมะเร็งต่อมลูกหมาก

ศาสตราจารย์ เอียน เฟรเซอร์

ศาสตราจารย์ เอียน เฟรเซอร์ วิทยากรรับเชิญ, ฯพณฯ แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย (ปัจจุบันเกษียณอายุ), นพ.กฤษณ์ จาฏามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม

ศาสตราจารย์เอียน เฟรเซอร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการแพทย์แห่งออสเตรเลีย (The Translational Research Institute Australia) เป็นนักภูมิคุ้มกันวิทยาชั้นแนวหน้าที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัคซีน HPV ซึ่งเป็นวัคซีนหลักสำหรับการป้องกันมะเร็งปากมดลูก โดยท่านได้ร่วมพัฒนาวัคซีนนี้กับศาสตราจารย์เจียน โจว ผู้ได้รับรางวัลโนเบลจากผลงานดังกล่าว ด้วยคุณูปการอันโดดเด่น ศาสตราจารย์เฟรเซอร์ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย เช่น Australian of the Year Award ในปี พ.ศ. 2549 และ เหรียญ Florey Medal

ศาสตราจารย์มาร์ติน พิคคาร์ท-เกบฮาร์ท

นพ.กฤษณ์ จาฏามระ, ศาสตราจารย์มาร์ติน พิคคาร์ท-เกบฮาร์ท วิทยากรรับเชิญ และ นพ.ไมเคิล เกบฮาร์ท

ศาสตราจารย์มาร์ติน พิคคาร์ท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ ณ สถาบัน Jules Bordet กรุงบรัสเซลส์ และเป็นศาสตราจารย์ด้านเนื้องอกวิทยาแห่ง Université Libre de Bruxelles  ท่านเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Breast International Group (BIG) และมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำการทดลองทางคลินิกระดับนานาชาติที่พลิกโฉมวงการหลายโครงการ เช่น AURORA ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมระยะลุกลามโดยเฉพาะ รวมถึงการทดลองสำคัญอื่น ๆ เช่น HERA, MINDACT และ ALTTO นอกจากนี้ ท่านเคยดำรงตำแหน่งประธานขององค์กรด้านมะเร็งชั้นนำของยุโรป ได้แก่ สมาคมอายุรศาสตร์มะเร็งแห่งยุโรป (ESMO) และองค์กรยุโรปเพื่อการวิจัยและรักษามะเร็ง (EORTC) ทั้งยังเคยเป็นคณะกรรมการของสมาคมวิจัยโรคมะเร็งและสมาคมอายุรศาสตร์มะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (AACR และ ASCO) ด้วยคุณูปการต่อวงการแพทย์ ท่านจึงได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิ รางวัล St. Gallen International Breast Cancer Award ประจำปี พ.ศ. 2560 โดยปัจจุบันท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงระดับโมเลกุลของมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการลุกลามของโรค เพื่อหาแนวทางเอาชนะภาวะดื้อยาและพัฒนายาในการรักษาต่อไป

ศาสตราจารย์ไมเคิล บาม

ศาสตราจารย์ไมเคิล บาม วิทยากรรับเชิญ กับ นพ.กฤษณ์ จาฏามระ

ศาสตราจารย์ไมเคิล บาม เป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านศัลยศาสตร์และศาสตราจารย์รับเชิญด้านมนุษยศาสตร์การแพทย์แห่ง University College London (UCL) ท่านเคยเป็นศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลมาร์สเดน (Royal Marsden Hospital) ในกรุงลอนดอน ด้วยผลงานการวิจัยอันโดดเด่น ท่านจึงได้รับรางวัลเกียรติยศ St. Gallen Lifetime Achievement Award  ถือเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สำคัญหลายด้าน ท่านเป็นผู้ริเริ่มการทดลองทางคลินิกระดับนานาชาติหลายโครงการ โดยเฉพาะการทดลองยา ATAC ซึ่งศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างยา Anastrazole และยา Tamoxifen ทั้งในรูปแบบยาเดี่ยวและยาผสม ผลการทดลองดังกล่าวได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า Anastrazole มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Tamoxifen ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านศัลยกรรม ท่านยังเป็นผู้บุกเบิกเทคนิคการผ่าตัดแบบสงวนเต้านม (Lumpectomy) ควบคู่กับการฉายรังสีระหว่างการผ่าตัด (Intraoperative Radiotherapy) ซึ่งนวัตกรรมการรักษานี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม กว่า 20 ปีที่ผ่านมา

ดร. สจวร์ต เคอร์บิชลีย์

นพ.กฤษณ์ จาฏามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม , ดร. สจวร์ต เคอร์บิชลีย์ วิทยากรรับเชิญ และ นพ. อธิศพันธุ์ จุลกทัพพะ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ดร. สจวร์ต เคอร์บิชลีย์ มีความสนใจเป็นพิเศษในสาขาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ซึ่งเป็นการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง ท่านได้รับเชิญในฐานะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมวิชาการนานาชาติ ของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม ด้านการรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (QSCBC Precision Oncology International Forum) และ การประชุมวิชาการนานาชาติว่าด้วยความก้าวหน้าทางมะเร็งวิทยา ประจำปี พ.ศ. 2565 (Oncological Frontiers International Forum 2022) ปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันภูมิคุ้มกันวิทยาและภูมิคุ้มกันบำบัด (Institute of Immunology and Immunotherapy) ณ ศูนย์วิจัยโรคตับ (Centre for Liver Research) มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม (University of Birmingham) สหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ท่านยังเป็นนักภูมิคุ้มกันวิทยาโรคตับ (Liver Immunologist) ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาแนวทางการใช้วัคซีนเพื่อรักษามะเร็งชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งเซลล์ตับ (Hepatocellular Carcinoma)

ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านมจัดงานสัมมนาเรื่อง“มะเร็งเต้านมระยะลุกลามเฉพาะที่”

ศาสตราจารย์ริชาร์ด อาร์. เลิฟ อายุรแพทย์ด้านเนื้องอกวิทยา
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยโรคมะเร็งเต้านมจาก 12 ประเทศที่เข้าร่วมการสัมมนาเรื่องมะเร็งเต้านมระยะลุกลามเฉพาะที่ ซึ่งจัดโดยศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม เป็นเวลา 3 วัน

ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม จัดพิธีมอบวุฒิบัตรด้านการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยเต้านมขั้นสูง

หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด 1 ปี ครอบคลุมการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยเต้านมขั้นสูง โดย ฯพณฯ แผน วรรณเมธี อดีตเลขาธิการสภากาชาดไทย และ แพทย์หญิงพอใจ เตชะนิธิสวัสดิ์ ผู้สำเร็จหลักสูตรการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยเต้านมของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม

ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม จัดอบรมหลักสูตรเพิ่มทักษะของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย

ผู้สำเร็จการศึกษาในพิธีมอบวุฒิบัตรหลักสูตรเพิ่มทักษะของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย สำหรับพยาบาลซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทย